การเสพกาม ของ เทวดา (ศาสนาพุทธ)

สวรรค์ซึ่งอยู่ในชั้นกามาวจรภูมิคือยังเกี่ยวข้องกับกามคุณทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส การเสพกามเช่นกัน เทวดาจะมีการเสพกามกันไม่ต่างอะไรกับมนุษย์แต่จะมีความแตกต่างกันออกไปเพราะเบญจกามคุณที่เป็นเลิศกว่า สวยงามกว่า ปราณีตกว่าเท่านั้น ยิ่งเกิดในภูมิชั้นสูงมากขึ้นไป การเสพกามก็ยิ่งเบาบางลงตามลำดับ

อาจารย์บางพวก (ฝ่ายวัดอภัยคีรีวิหาร) เชื่อว่าเทวดามีวิธีเสพกามต่างจากมนุษย์ ดังนี้

  • เทวดาสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา จะเสพกามเหมือนมนุษย์ มีน้ำเป็นที่สุด สามารถตั้งครรถ์ได้
  • เทวดาสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จะเสพกามเหมือนมนุษย์ มีน้ำเป็นที่สุดเช่นกัน แต่ไม่สามารถตั้งครรถ์ได้
  • เทวดาสวรรค์ชั้นยามา จะเสพกามด้วยการสวมกอดกัน
  • เทวดาสวรรค์ชั้นดุสิต จะเสพกามด้วยการสวมกอดกันเบาๆ
  • เทวดาสวรรค์ชั้นนิมมานรดี จะเสพกามด้วยการจับมือ
  • เทวดาสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี จะเสพกามด้วยการจ้องตามองกัน

อย่างไรก็ตาม คัมภีร์สุมังคลวิลาสินีได้ปฏิเสธความเชื่อนี้โดยระบุว่า พระเถระบางท่านกล่าวว่า กามกิจย่อมสำเร็จแก่พวกเขา (เทวดา) ด้วยอาการสักว่าหัวเราะ สักว่ามองดูและสักว่าการสวมกอด. คำของพระเถระบางท่านนั้นถูกคัดค้านไว้ในอรรถกถาว่าคำที่กล่าวนั้นไม่มี. กามกิจที่จะพึงถูกต้องจะสำเร็จแก่ผู้ไม่ถูกต้องด้วยกาย หามิได้. เพราะว่า กามทั้งหลายของเหล่าเทพชั้นฉกามาวจรเป็นไปตามปรกติเหมือนกัน[5]

ส่วนเทวดาชั้นพรหมที่อยู่สูงกว่าจะไม่เสพกามเลยเพราะปราศจากกามฉันทะ